วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2554

...ความรัก ...


ความรัก VS บุคคล
ความรัก VS ความแค้น
ความรักในรูปแบบต่างๆ
พลังแห่งความรัก

ความรัก VS บุคคล

ความผิดของผู้ที่เรารัก จะมีมากมายเพียงไร ย่อมยังพออภัยกันได้เสมอ (พิฆาตทรชน เล่ม 3 น. 780)
การรับความทุกข์ เพื่อบุคคลที่เรารักใคร่ ... เป็นความสุขประการหนึ่ง เพียงแต่ว่า ในใต้หล้า มีบุคคลสักกี่คนที่หยั่งซึ้งถึงความหมายเช่นนี้ และมีวาสนาได้รับ? (ราชายุทธจักร เล่ม 1 น. 388)
ตัวของความรักไม่มีผิด มิว่าผู้ใดไปรักคนอีกผู้หนึ่งต่างไม่ผิด (ไม่มีน้ำตาวีรบุรุษ น. 181)

ความรัก VS ความแค้น

ระหว่างรักและแค้น คล้ายคมดาบ มีข้อแบ่งแยกตรงจุดใด ยากที่จะคำนวณได้ (คมดาบสั้น น. 244)
ไม่รักก็คือแค้น รักถึงที่สุดก็กลายเป็นแค้น ในระหว่างรักกับแค้น ที่จริงห่างกันเพียงเส้นกั้นเท่านั้น (ไม่มีน้ำตาวีรบุรุษ น. 324)
ที่ความแค้นริษยานำพามาได้ มีแต่ทุกข์ทรมาน พินาศย่อยยับเท่านั้น ดังนั้น ท่านโปรดละทิ้ง ลืมเลือนความแค้นและริษยา มาให้ความรักที่บริสุทธิ์จริงใจต่อกัน ซึ่งย่อมนำพาความสุขแก่ท่านชั่วนิจนิรันดร์ (ราศีดอกท้อ เล่ม 2 น. 798)

ความรักในรูปแบบต่างๆ

เมื่อเสพรับความสุขของการอยู่ร่วมแล้ว ไฉนไม่อาจกล้ำกลืนรับความปวดร้าวของการจำพราก? หากไม่เคยเผชิญความปวดร้าวของการจำพราก? ไหนเลยล่วงรู้ความสุขของการอยู่ร่วม? (ตะขอจำพราก น. 113)
ความจริง รักนั้นมักเกิดขึ้นโดยฉับพลันเสมอ มีแต่รักของมิตรสหายเท่านั้น ที่ต้องสะสมขึ้นจากวันเวลา จึงจะหนักแน่นยืนนาน (กระบี่อมตะ น. 55)
ในวงของความรักนั้น มิเพียงรวมทั้งความรักของมิตรสหาย ยังได้รวมถึงความรักที่มีต่อมนุษยชาติด้วย (ราศีดอกท้อ เล่ม 2 น. 622)

พลังแห่งความรัก

ความรัก ความจริงตาบอด ความหึงหวงยิ่งสามารถทำให้คนที่ฉลาดที่สุด กลายเป็นทั้งตาบอดทั้งโง่เขลา (ไม่มีวันก้มหัวให้ น. 325)
พลังจากรักแท้เป็นสิ่งประโลมขวัญ จรรโลงชีวิตผู้คนยั่งยืนนานชั่วนิจนิรันดร์ (จับอิดนึ้ง เล่ม 2 น. 698)
ความจริง รักมิใช่แตะต้องสัมผัสได้ บางครั้งเจ็บปวดทรมาน บางครั้งหวานชื่นดื่มด่ำ บางครั้งเบิกบานแจ่มใส บางครั้งกลับเศร้าโศกรันทด คนที่โศกเศร้ารันทด เมื่อมีรักอาจจะกลับกลายเป็นร่าเริงแจ่มใสก็ได้ คนที่ร่าเริงแจ่มใส อาจจะเจ็บช้ำรันทดเพราะความรักก็ได้ นี่คือความลับที่ลึกซึ้งของรัก (ราศีดอกท้อ เล่ม 2 น. 509)  

...บุรุษเพศ ...

บุรุษ VS เงินทอง
ลูกผู้ชาย วีรบุรุษ
อุปนิสัยของบุรุษ
บุรุษ VS สตรี

บุรุษ VS เงินทอง

บุรุษผู้หนึ่งไม่อาจใช้จ่ายเงินทองโดยพร่ำเพรื่อ แต่มิอาจไม่รู้จักใช้เงินทอง (ดาบมรกต น. 65)
ในโลก นอกจากชื่อเสียง สมบัติ และสตรี ยังมีอันใดสร้างความหวั่นไหวใจแก่บุรุษยิ่งกว่า (ซาเสียวเอี้ย เล่ม 1 น. 216)
คนกลัวภรรยาต่างรุ่มรวย (ราศีดอกท้อ เล่ม 1 น. 150)
**** ปล. ชอบประโยคนี้เป็นพิเศษค่ะ 555

ลูกผู้ชาย วีรบุรุษ

บุรุษเพศ หากไม่ยอมรับชะตากรรม สามารถต่อสู้ดิ้นรนชีวิต ก็นับเป็นชายชาติอันเข้มแข็ง วีรบุรุษที่แท้จริง (จับอิดนึ้ง เล่ม 1 น. 366)
ชายชาติชาตรีสมควรยืดได้หดได้เมื่อถึงคราจำเป็น (ราชายุทธจักร เล่ม 5 น. 1969)
ลูกผู้ชายชาติชาตรี เมื่อได้ลั่นปากไปแล้ว ก็เฉกเช่นกับผ้าขาวที่แต้มลงด้วยสี (พิฆาตทรชน เล่ม 1 น. 14)
บุรุษชาติชาตรีที่แท้จริง หากเมื่อถึงคราจำเป็น มักต้องเสียสละตัวเอง ไปส่งเสริมผู้อื่นอยู่เสมอ (เหยี่ยวเดือนเก้า เล่ม 3 น. 626)

อุปนิสัยของบุรุษ

บุรุษผู้หนึ่ง หากลอบทำร้ายผู้อื่น จะไม่รอให้ผู้อื่นค้นหาหลักฐานผูกมัดตัวมันได้ (แค้นสั่งฟ้า น. 132)
หากท่านเป็นบุรุษ ควรเข้าใจเรื่องประการหนึ่งจึงประเสริฐ หากมีบุรุษอื่นมายกย่องชมเชยท่านต่อหน้า หากมิใช่เคารพนับถือท่านจนศิโรราบจริงใจ ก็ต้องเป็นเห็นท่านต่ำทรามจนไร้ค่า และมักยังมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงด้วย แต่หากมันชมท่านลับหลัง นั้นก็เป็นการชมโดยจริงใจ (ผู้ยิ่งใหญ่ เล่ม 3 น. 818)
บุรุษที่ปราศจากความทะเยอทะยานอยาก ไม่อาจนับเป็นบุรุษที่แท้จริง (ยอดมือปราบ น. 131)

บุรุษ VS สตรี

บุรุษที่เข้าใจว่า ตนเองเข้าใจสตรีซึ้งกระจ่างยิ่ง หากมิใช่เป็นคนวิกลจริต ก็ต้องเป็นตัวโง่เขลาบัดซบ (ทวนทมิฬ น. 47)
ต่อให้สตรีนางนั้นเคยร่วมทุกข์ร่วมสุข อยู่ร่วมกับบุรุษผู้นั้นมานานปี ก็ไม่แน่นักว่า จะเข้าใจความนึกคิดและความรู้สึกของบุรุษผู้นั้นจนหมดสิ้น (ซาเสียวเอี้ย เล่ม 1 น. 290)
มีคนมากหลายอย่างยิ่ง ไม่ยอมแสดงน้ำใจของตัวเองออกมา โดยเฉพะสตรีที่ตัวเองพอใจ ... อาจบางที เนื่องเพราะพวกมันรู้สึก แสดงความรักจนลุ่มหลงต่อหน้าอิสตรี ไม่มีบุคลิกภาพของชายชาตรีอันเข้มแข็ง อาจบางที เนื่องเพราะพวกมันที่จริงไม่รู้จะกระทำเยี่ยงไร (ไม่มีน้ำตาวีรบุรุษ น. 169)  

...สตรีเพศ ....


ความในใจและจิตใจของสตรี
สตรี VS บุรุษ
สตรี VS สตรีด้วยกัน
อาวุธของสตรี
นิสัยด้านลบของสตรี
นิสัยด้านบวกของสตรี

ความในใจและจิตใจของสตรี

เรื่องราวในโลกผันแปรไม่แน่นอน จิตใจอิสตรีแปรผันเร็วยิ่งกว่า (ตะขอจำพราก น. 57)
สตรีหากใจแข็งขึ้นมา ยังแข็งกระด้างกว่าบุรุษมากนัก (คมดาบสั้น น. 426)
หากคิดศึกษาซึ้งถึงจิตใจอิสตรี ยังลำบากยากเย็นกว่าการฝึกปรือฝีมือเสียอีก (จับอิดนึ้ง เล่ม 1 น. 114)

สตรี VS บุรุษ

บุรุษที่เชื่องฟังวาจาเกินไป สตรีนับว่าไม่ชมชอบเท่าใด (ยอดมือปราบ น. 132)
ผู้หญิงมักมีความรู้สึกที่หกอันลึกลับ ดูเรื่องราวที่ผู้ชายจำนวนมากดูไม่ออก (ไม่มีวันก้มหัวให้ น. 361)
อิสตรีนางหนึ่งหากคิดเป็นภรรยาอันเลอเลิศ ได้รับคำชมเชยจากทุกผู้คน
ขณะอยู่เบื้องหน้าสหายของคู่หมั้นหมายหรือสามี ใบหน้าสมควรประดับด้วยรอยแย้มยิ้มตลอดเวลา (จับอิดนึ้ง เล่ม 2 น. 613)

สตรี VS สตรีด้วยกัน

ผู้ที่สตรีกริ่งเกรงกังวลอย่างแท้จริง คล้ายมักเป็นสตรี (ยอดมือปราบ น. 87)
อาจบางทียามสตรีรับมือกับสตรีด้วยกัน จะกลายเป็นอำมหิตดุดันกว่าธรรมดาบ้าง (ราศีดอกท้อ เล่ม 1 น. 312)

อาวุธของสตรี

มีแต่รอยยิ้มอันนุ่มนวล จึงเป็นอาวุธที่ดีที่สุดของสตรี (ทวนทมิฬ น. 145)
มิว่าเป็นอาวุธลับที่ร้ายกาจเพียงใด อย่างมากก็ซัดใส่ร่างท่านให้เป็นรู เป็นโพรงไม่กี่แผล
แต่น้ำตาของสตรี กลับสามารถราดรดหัวใจท่านจนแหลกลาญ (ราศีดอกท้อ เล่ม 1 น. 193)
สตรีที่รักจนคลั่งไคล้นางหนึ่ง มักใช้กลอุบายเล็กๆน้อยๆต่อบุรุษที่นางรัก
ใช้การหลอกลวงส่วนหนึ่ง เล่ห์กลส่วนหนึ่ง ข่มขู่ส่วนหนึ่ง และความหวานอยู่ 3 ส่วน (กล้วยไม้เที่ยงคืน น. 229)

นิสัยด้านลบของสตรี

ฟังว่า ขณะที่สตรีนางหนึ่งบังเกิดความหึงหวง กระทั่งกษัตริย์เจ้าชีวิตยังไม่อาจควบคุมบังคับได้ (ดาบมรกต น. 136)
มีแต่ความแค้น ซึ่งเกิดจากความรักอันระอุคุกรุ่น จึงสามารถบันดาลให้ดรุณีที่บริสุทธิ์ดีงาม
กลับกลายเป็นชั่วร้ายดุจอสรพิษ (หลั่งเลือดสะท้านภพ เล่ม 1 น. 97)
ริษยาขุ่นเคือง ... นี่เป็นสัญชาตญาณของดรุณีทุกนวลนางในใต้หล้า (ราชายุทธจักร เล่ม 2 น. 507)

นิสัยด้านบวกของสตรี

การสะกดกลั้น นับเป็นคุณสมบัติประการหนึ่งของอิสตรี (จับอิดนึ้ง เล่ม 2 น. 840)
มิว่าสตรีประเภทใด ต่างมีปมเด่นที่น่ารักของนางอยู่
ขอเพียงท่านมีความอดทนไปแสวงหา ท่านต้องหาพบแน่ (ราศีดอกท้อ เล่ม 1 น. 11)
ความนุ่มนวลเอาใจของสตรี ย่อมสามารถบันดาลให้บุรุษหวั่นไหวตื้นตันได้ (เหยี่ยวเดือนเก้า เล่ม 3 น. 887)  

... คน ...


คนโง่และคนฉลาด
คนที่พยายามทุกวิถีทางให้มีชีวิตรอดต่อไป
คนที่หมดกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อ
จุดอ่อนและปมด้อยของคน
ลักษณะนิสัยด้านลบของคน
ลักษณะนิสัยด้านบวกของคน

คนโง่และคนฉลาด

แม้นับเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องสุดยอด แต่ในบางด้านก็กลายเป็นคนโง่เขลาได้ (ราศีดอกท้อ เล่ม 2 น. 667)
คนผู้หนึ่งหากตั้งใจเป็นตัวโง่งม ท่านได้แต่ปล่อยให้มันเป็น ม้าตัวหนึ่งหากดึงดันไม่ยอมเดินทางต่อ ท่านก็ได้แต่ปล่อยให้มันหยุดยั้งลง (ทวนทมิฬ น. 171)
คนโง่ก็มิใช่ทุกผู้คนจะหลอกลวงได้ ยิ่งเป็นคนฉลาดเพียงใด ยิ่งหลอกคนโง่เขลาไม่ได้ ... เนื่องจากคนฉลาดมีความคิดกลอกกลิ้งเกินไป ส่วนคนโง่นั้นไม่มีความคิดมากมาย หากมันแน่ใจว่าเจ้าจะหลอกลวง แม้วาจาที่เจ้ากล่าวเป็นความจริง มันก็ไม่เชื่อ (นักสู้ผู้พิชิต เล่ม 6 น. 2346 – 2347 )

คนที่พยายามทุกวิถีทางให้มีชีวิตรอดต่อไป

มิถึงยามอับจนปัญญา มิมีผู้ใดคิดใคร่ตาย (จับอิดนึ้ง เล่ม 1 น. 369)
ทุกคนเสี่ยงชีวิตเพื่อคิดอยู่สืบไป (ไม่มีวันก้มหัวให้ น. 318)
ไม่ว่าผู้ใดล้วนมีสิทธิ์พิทักษ์รักษาชีวิตตนเอง เพื่อปกป้องสิทธิ์นี้ คนผู้หนึ่งไม่ว่าทำอะไร สมควรได้รับความเคารพ (ทวนทมิฬ น. 221)

คนที่หมดกำลังใจที่จะมีชีวิตต่อ

คนที่ป่วยหนัก สามารถรอดต่อไปหรือไม่? อย่างน้อยต้องดูตัวมันเอง คิดจะมีชีวิตต่อไปหรือไม่? (เหยี่ยวเดือนเก้า เล่ม 3 น. 667)
บุคคล ... หากทำลายชีวิตโดยง่ายดาย นับเป็นเรื่องราวอันน่าอัปยศอดสู (ราชายุทธจักร เล่ม 3 น. 1065)
การอัตวินิบาตกรรม มิใช่เป็นพฤติการณ์ของผู้กล้าหาญ แต่เป็นการกระทำของคนอ่อนแอมิกล้าสู้โลก (นักสู้ผู้พิชิต เล่ม 4 น. 1473)

จุดอ่อนและปมด้อยของคน

ผู้ที่หยามเหยียดตนเอง มักจงใจเสแสร้งเป็นเย่อหยิ่งลำพอง (ดาบมรกต น. 167)
ในตัวของแต่ละคน ต่างมีเชือกที่มองไม่เห็นพันธนาการอยู่เส้นหนึ่ง เวลาส่วนมากในชั่วชีวิต ต่างถูกเชือกเส้นนี้ พันธนาการไว้แนบแน่น เชือกของคนบางจำพวกคือ บุตรภรรยาและครอบครัว เชือกของคนบางจำพวกคือ ทรัพย์สินเงินทอง กิจการและหน้าที่ (ไม่มีน้ำตาวีรบุรุษ น. 187)
คนผู้หนึ่งไม่อาจหนีตัวเองได้ ความผิดพลาดของตัวเอง ความเสียใจของตัวเอง ความรับผิดชอบของตัวเอง ล้วนแล้วแต่หนีไม่ได้ เนื่องเพราะนั่นคล้ายเป็นเงาของตัวเอง ซึ่งติดตามตนไปทุกแห่งหน ไม่อาจหนีรอดได้เด็ดขาด (ล่าสุดขีด เล่ม 1 น. 134)

ลักษณะนิสัยด้านลบของคน

ดาบแม้ไม่แหลมคมเท่ากระบี่ ถึงกับทื่อกว่ากระบี่ แต่โดยแท้ที่จริง มันมีส่วนที่กลอกกลิ้งและรู้จักซ่อนตัวเอง เช่นเดียวกับบุคคลบางคนในโลกนี้ (คมดาบสั้น น. 203)
ความมักใหญ่ใฝ่สูงก็คล้ายเป็นน้ำป่า ยามเมื่อทะลักลงมา จะไม่มีผู้ใดสามารถควบคุมบังคับได้ กระทั่งตัวเองก็ไม่อาจ ดังนั้น มักใหญ่ใฝ่สูง มิเพียงทำลายผู้อื่นเท่านั้น ยังทำลายตัวเองด้วยเช่นกัน และมักจะทำลายตัวเองก่อนที่ได้ทำลายผู้อื่นเสมอมา แต่ทว่า หากมนุษย์เราไม่มีความมักใหญ่ใฝ่สูงโดยสิ้นเชิง ชีวิตไยมิใช่ชืดชาไร้รสชาติยิ่ง นี่ไยมิใช่ เป็นโศกนาฏกรรมประการหนึ่งของมนุษย์เรา (เหยี่ยวเดือนเก้า เล่ม 3 น. 901)
ขอเพียงเป็นผู้คน ไม่ว่าเป็นคนเยี่ยงไร คิดหัดประพฤติชั่วล้วนง่ายกว่าประพฤติดีงาม โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอบายมุข กระทั่งเรียนก็ไม่ต้องเรียน (ซาเสี่ยวเอี้ย เล่ม 3 น. 951)

ลักษณะนิสัยด้านบวกของคน

วิญญูชนย่อมไม่สร้างความลำบากยากใจแก่ผู้อื่น (จับอิดนึ้ง เล่ม 1 น. 224)
คนผู้หนึ่งบากบั่นดิ้นรนชั่วชีวิต บางครั้งไม่ได้เพราะชื่อเสียงลาภยศ ... ยังมีอีกประการหนึ่ง ... เพราะอุดมการณ์ (ซาเสี่ยวเอี้ย เล่ม 1 น. 160)
มนุษย์ที่เป็นมนุษย์ เนื่องเพราะมนุษย์มีมนุษยธรรม ส่วนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยธรรม มักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ (ล่าสุดขีด เล่ม 2 น. 516)  

ชีวิต . . . .

การมีชีวิตอยู่เป็นสิ่งที่มีคุณค่า ดังนั้น การมีชีวิตอยู่ดีกว่าตกตายไป
ในชีวิตหนึ่งมีอะไรที่เราไม่คาดหมายเกิดขึ้นได้ 108 ประการ ดังนั้น อย่าได้ยึดมั่นถือมั่นจนเป็นจริงเป็นจังเกินไปนัก
ความประมาทเลินเล่อนำพาชีวิตไปสู่ความผิดพลาด
คนเราเกิดมาแตกต่างกัน
ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตมักเกิดจากการตัดสินใจในพริบตาเดียว
การมีความหวังในชีวิต
ความสุขในชีวิต
ความเศร้าในชีวิต ความคิดถึงที่ทำให้เกิดความปวดร้าว
การมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย
ความอดทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตเรา

การไม่ยึดมั่นถือมั่น

จริงๆเท็จๆ เท็จๆจริงๆ ชีวิตคนความจริงเป็นละครบทหนึ่ง ไยต้องยึดถือเป็นจริงเป็นจังไป ? (แค้นสั่งฟ้า น. 100)
ชีวิตคนไยมิใช่เฉกเช่นเวทีละครฉากหนึ่ง พวกเราไยมิใช่กำลังเล่นละคร ? (ทวนทมิฬ น. 243)
เรื่องราวของชั่วชีวิตหนึ่ง คล้ายเป็นความฝันอย่างยิ่ง จริงหรือเท็จ ความจริงมีน้อยคนนัก จะสามารถแยกแยะได้แน่ชัด (เหยี่ยวเดือนเก้า เล่ม 3 น. 723)
ทุกข์หรือสุข โชคหรือเคราะห์ ความจริงก็มิใช่เป็นความแน่นอนที่สุด หากท่านคิดจะไปได้ในด้านใดมากกว่า ก็ต้องทอดทิ้งอีกด้านหนึ่งไปบ้าง ความจริงชีวิตคนเรา มิต้องถือจริงจังเกินไปนักอยู่แล้ว (เดชขนนกยูง น. 113)

ความหวัง

• “วันพรุ่งนี้เต็มไปด้วยความหวังตลอดกาล เนื่องเพราะยังมีวันพรุ่งนี้ ในโลกจึงมีคนจำนวนมากสามารถดำรงชีวิตต่อไป (ไม่มีวันก้มหัวให้ น. 39)
ในโลก ความจริงไม่มีเรื่องโชคช่วยที่แท้จริง และต้องไม่มีเคราะห์ร้ายที่แท้จริงด้วย ระยะของโชคและเคราะห์ ความจริงก็พิสดารอย่างยิ่ง ดังนั้น หากท่านพบพานกับเรื่องเคราะห์ อย่าได้ตัดพ้อตำหนิ อย่าได้ท้อแท้เป็นอันขาด แม้นับว่า ท่านถูกเคราะห์จู่โจมจนล้มลงก็มิเป็นไร เนื่องเพราะขอเพียงท่านยังมีชีวิต ท่านก็ต้องยังมีเวลาทรงกายขึ้นยืนได้ (เดชขนนกยูง น. 16)
ขอเพียงแต่มีความหวัง ย่อมมีโอกาส (ราชายุทธจักร เล่ม 5 น. 2103) 

 ความสุขในชีวิต

ชีวิต หากพยายามให้ดำเนินไปตามครรลองอันถูกต้อง จะเป็นเศรษฐีมีทรัพย์นับอนันต์ หรือยากไร้จนต้องภิกขาจาร หากถืออุเบกขามิฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยาน ย่อมมีความสุขสมอัตภาพทุกรูปนาม (นักสู้ผู้พิชิต เล่ม 8 น. 3163)
ได้อยู่ดีกินดี สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ดี นั่นไม่อาจนับเป็นวันเวลาประเสริฐ ที่สำคัญสุดคือ ต้องดูหัวใจท่านมีความสุขหรือไม่ ขอเพียงหัวใจมีความสุข เรื่องอื่นๆ ต่างมิเป็นที่สำคัญเลย (เดชขนนกยูง น. 89)
ก่อนที่ความมืดจะปกคลุมพสุธา เทพยดามักประทานแสงสีแก่โลกมนุษย์เป็นพิเศษ เช่นเดียวกับคนผู้หนึ่ง ก่อนตายมักแสดงออกซึ่งเมตตาธรรม แสดงออกซึ่งสติปัญญาเป็นพิเศษ นี่คือชีวิตของคน ท่านหากเข้าใจชีวิตของคนอย่างถ่องแท้ ความเศร้าเสียใจของท่านจจะลดน้อยลง และมีความสุขมากยิ่งขึ้น (ซาเสียวเอี้ย เล่ม 3 น. 1226)
ความสุขเป็นสิ่งที่ประหลาดยิ่ง หาได้ลดน้อยเพราะท่านแบ่งปันแก่ผู้อื่นไม่ บางครั้ง ท่านยิ่งแบ่งปันแก่ผู้อื่นมากขึ้น ความสุขที่ตนเองได้รับ ก็จะมากยิ่งขึ้น (ดาบมรกต น. 23 – 24 )

ความเศร้า

คนเมื่อมีชีวิตอยู่ ก็มีความเจ็บปวดรวดร้าว ที่ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่ว่าผู้ใด ก็ไม่มีปัญญาหลีกเลี่ยงได้ (หลั่งเลือดสะท้านภพ เล่ม 3 น. 915)
ความเศร้าเสียใจ ความจริงสามารถกัดกร่อนผู้คนจนเหน็ดเหนื่อย (ยอดมือปราบ น. 155)
บางครั้ง ความเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว ยังคับแค้นทรมานกว่าความตาย ไม่เช่นนั้น ในโลกไหนเลยมีคนเสียชีวิต เพราะความเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว (ซาเสียวเอี้ย เล่ม 3 น. 1076)

การมีชีวิตอย่างมีความหมาย

ความหมายของชีวิตที่จริงก็คือ มานะพยายามต่อสู้ด้วยความเข้มแข็ง (ราศีดอกท้อ เล่ม 1 น. 87)
คนที่ครอบครองทุกสิ่งผู้หนึ่ง ยังมีความสนุกสนานอันใด โลกนี้ยังมีเรื่องใดคู่ควรให้ต่อสู้ดิ้นรนอีก ? อย่างเขามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร หรือว่า อยู่เพียงเพื่อมีชีวิตอยู่ ? ในชีวิตคนผู้หนึ่ง ต้องมีเป้าหมายที่คู่ควรให้ต่อสู้ดิ้นรน ชีวิตของคนผู้นี้จึงมีความหมาย (กล้วยไม้เที่ยงคืน น. 239)
คนมีชีวิตอยู่ก็ต้องอดทน อดกลั้น ความหมายอีกหนึ่งของอดทน ... คือดิ้นรนต่อสู้ อดกลั้นทนทานโดยไม่หยุดยั้ง ก็คือ ดิ้นรนต่อสู้โดยไม่หยุดยั้ง มิเช่นนั้น ชีวิตของท่านจะไดร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เนื่องเพราะความจริง ชีวิตเติบใหญ่ขึ้นจากห้วงทุกข์ทรมาน (ผู้ยิ่งใหญ่ เล่ม 1 น. 223)

ความอดทน

ในช่วงชีวิตหนึ่ง อย่างไรก็มีเรื่องเบิกบานแจ่มใสได้อยู่หลากหลาย ผู้ใดแม้จะพบพานเรื่องโชคร้าย เผชิญกับความทุกข์ยากลำเค็ญอยู่บ้าง ก็มีคุณค่าให้อดกลั้นทนทานอยู่ ขอเพียงสามารถอดกลั้นทนทาน ก็นต้องได้รับคุณค่าตอบสนองแน่นอน (ผู้ยิ่งใหญ่ เล่ม 1 น. 246)
หนทางแต่ก่อนนั้นแม้จะทุรกันดาร แต่สิ่งที่ได้มาอย่างลำบาก ไยมิใช่ยิ่งมีคุณค่าน่าทะนุถนอม (ราชายุทธจักร เล่ม 3 น. 1146)

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คำคมจากหนังสือนิยายกำลังภายใน โดย โกวเล้ง ผู้มีฉายาว่า มังกรเมรัย

มากรักมักจะทำให้ผู้อื่นตรอมตรม คนไร้น้ำใจเล่า คนไร้น้ำใจใช่ไม่มีความปวดร้าว
ตรอมตรมหรือไม่ คนไร้น้ำใจใช่มีชีวิตอย่างสุขสันต์หรือไม่ จากเรื่อง ฟันฟ้าผ่านรก
---------------------------------------
เมื่อเนิ่นนานมาแล้ว มีปราชญ์ผู้ทรงภูมิปัญญาท่านหนึ่งกล่าวคำพูดที่ยากลืมเลือนตลอดกาล
ท่านบอกว่าน้ำมิตรเกิดจากการสั่งสม แต่ความรักอุบัติอย่างกระทันหัน น้ำมิตรต้องผ่านกา
รทดสอบของเวลา แต่ความรักมักบังเกิดในชั่วพริบตา ชั่วพริบตานั้นเจิดจ้าจำรัสปานใด
สวยสดงดงามเพียงไหน ชั่วพริบตานั้นจะคงอยู่เป็นนิรันดร์
จากเรื่อง หงส์ผงาดฟ้า ตอนเกาะมหาภัย
---------------------------------------- 
หากมิเคยใกล้ชิดกับสตรีเลย อาจบางทีประเสริฐกว่า บุรุษที่ไม่แตะต้องกับสตรีมาเลย
ก็คล้ายเป็นเขื่อนที่มั่นคงแข็งแรง ยากยิ่งที่จะพังทลายลงไปบุรุษที่เคยผ่านสตรีมามากมาย
ก็ไม่เป็นอันตราย หากแม้นไม่มี

เขื่อนป้องกันอยู่ก่อน ไหนเลยจะพังทลายได้ ที่อันตรายที่สุด คือบุรุษที่พึ่งใกล้ชิดกับสตรี
นั่นคล้ายเป็นเขื่อนที่มีโพรงแตกอยู่เล็กน้อย มิว่าผู้ใดก็ไม่ทราบเมื่อใดมันจะปล่อยให้กำลัง
น้ำทลายออกไป จากเรื่อง ดาบจอมภพ
-----------------------------------------
เคยมีคนฉลาดปราดเปรื่องผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าเป็นบุรุษที่ปราดเปรื่องปานใด หากชมชอบ
สตรีนางหนึ่งจริงๆยามอยู่เบื้องหน้านาง มักจะแปรเปลี่ยนเป็นตัวโง่งม กระทั่งวาจาก็เปล่ง
ไม่ออก จากเรื่อง วีระบุรุษสำราญ
-------------------------------------------
ชีวิตของทั้งสองคล้ายดั่งดำรงอยู่ในความมืดมิดมาตลอดกาลนาน แต่ทั้งสองยังมีความสุข
ยิ่งกว่าคนอื่นอีกมากหลาย เนื่องจากเพราะชีวิตของทั้งสองมีรักแท้ รักแท้ไม่มีเรื่องราวใด
แทนได้ตลอดกาล จากเรื่อง เดชขนนกยูง
------------------------------------------
หากแม้นมีคนบอกว่า ความรักที่แท้จริงมีเพียงครั้งเดียว ไม่มีครั้งที่สอง อย่างนั้นคำกล่าวนี้
มาตรว่าเป็นปรัชญาคำหนึ่ง แต่ไม่อาจนับเป็นเหตุผลอันเที่ยงแท้ เนื่องเพราะความรักสามารถ
แปรสภาพ แปรเปลี่ยนเป็นน้ำมิตร แปรเปลี่ยนเป็นน้ำใจ แปรเปลี่ยนเป็นพึ่งพาอาศัย
กันและ กัน ถึงกับสามารถแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น
จากเรื่อง เหยี่ยวนรกทะเลทราย
----------------------------------------------
ความรักความจริงเป็นเรื่องพิศดารประการหนึ่งในโลก ความจริงมีความรู้สึกพิศดารที่ไม่มีปัญญาอธิบายอยูมากหลาย ความรู้สึกเช่นนี้ ความจริงสุดที่ผู้ใดจะเข้าใจได้ บางครั้งกระทั่งตนเองยังไม่เข้าใจ จากเรื่อง ทวนทมิฬ
----------------------------------------------
หากหัวใจของผู้ใดตายแล้ว มีเพียงสองวิธีเท่านั้นที่จะสามารถบันดาลให้มันฟื้นคืนมาได้ หนึ่งคือความรัก หนึ่งคือความแค้น
จากเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น
----------------------------------------------
ระหว่างคนที่รักกัน ไฉนเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ระแวงคลางแคลงซึ่งกันและกัน หรือนี่เป็นส่วนหนึ่งของความรัก จากเรื่องหลั่งเลือดสะท้านภพ
----------------------------------------------------
มีคนบอกว่า ตั่วอวงความจริงเป็นสตรีอัปลักษณ์นางหนึ่ง แต่เบ้ยู่เล้งไม่รังเกียจเดียดฉันท์นาง ยังรับนางเป็นภรรยา เนื่องจากเพราะโฉมหน้าสามารถแปรเปลี่ยนได้ทุกเวลา มีแต่รักแท้จึงเป็นอมตะไม่เปลี่ยนแปร จากเรื่อง ล่าสุดขีด
-------------------------------------------------------
โชคชะตาคืออะไร?โชคชะตามิใช่สายโซ่ที่มองไม่เห็นเส้นหนึ่ง? ความรักคืออะไร?ความรักไยมิใช่เป็นสายโซ่ที่มองไม่เห็นเส้นหนึ่งเช่นกัน? จากเรื่องยอดขุนโจร พบพานมิสู่อย่าพบพาน มาตรแม้นมีรัก รักนี้เพียงเหลือไว้ซึ่งอนุสรณ์
จากเรื่อง เหยี่ยวนรกทะเลทราย
---------------------------------------
บุรุษผู้หนึ่งหากตกเป็นเป้าหลงรักสตรีนางหนึ่ง นับว่าเป็นความผิดของมันหรือไม่? สตรีนางหนึ่ง หากรักบุรุษที่คู่ควรให้นางรัก นับว่าเป็นความผิดหรือไม่? ทั้งสองหากไม่ผิด ผู้ใดเป็นฝ่ายผิด จากเรื่อง ซาเสียวเอี้ย
----------------------------------------
ความรักนับเป็นสิ่งประหลาดพิสดารมากที่สุดในโลก มันยิ่งเผชิญอุปสรรคอันยากแค้นมากมายเพียงไร ดอกผลที่ผลิออกก็ยิ่งหอมหวานยืนนานเพียงนั้น
จากเรื่อง นักสู้ผู้พิชิต
-----------------------------------------



สถานการณ์ในสนามรบ มีความพิเศษพิศดารมากเพียงไร มักจะคล้ายกับสนามรัก ทั้งสองฟากฝ่าย หากมีฝ่ายหนึ่งปรากฎความสงบเบือกเย็นผิดปกติ อีกฝ่ายก็อดมิได้ต้องเกิดความว้าวุ่นหวั่นไหว ในระหว่างกันและกัน หากคนหนึ่งสามารถเด็ดเดี่ยวหนักแน่นผิดธรรมดา อีกฝ่ายหนึ่งก็ยากที่จะอ่อนแอเปราะบางได้ หากไร้น้ำใจในสนามรัก มักจะเป็นพลานุภาพที่ดึงดูดผู้คนได้รุนแรงยิ่ง การเยือกเย็นในสนามรบก็เป็นอาวุธอันเข้มแข็งอยู่ตลอดกาล
จากเรื่อง นักสู้ผู้พิชิต
-------------------------------------------
"หากท่านยังคิดจะได้ชัยเหนือผู้อื่น ยังคิดจะมีชัยเหนือลี้คิมฮวง ก็ต้องคืนกลับสู่ในกาลก่อน หากท่านคิดจะกลับสู่สภาพก่อนชองท่าน จะต้องฆ่าสตรีที่สามารถโยกคลอนหัวใจท่านให้หวั่นไหวไปเสียก่อน" จากเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น
------------------------------------------
ความจริงอาฮุยเป็นคนโดดเดี่ยวและว้าเหว่ แต่บัดนี้กลับทราบว่ามีคนกำลังคอย คนที่รักปานดวงใจรอคอยอยู่ ความรู้สึกเยี่ยงนี้ นับว่าสุขตรึงใจ ในโลกต้องไม่มีเรื่องราวใดเปรียบเรื่องนี้ได้ และต้องไม่มีเรื่องราวใดแทนเรื่องนี้ได้ด้วย
จากเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น
----------------------------------------------
หากอาฮุยไม่ได้รักนาง ลึกซึ้งตรึงใจปานนั้น นางไม่แน่ว่ากลับเป็นฝ่ายรักอาฮุยมากกว่า นี่คือจุดอ่อนของบรรดามนุษย์เรา ความกลับกลอกของสันดานมนุษย์ ดังนั้นมนุษย์ที่ชาญฉลาด แม้นับว่ารักนางใดจนลึกซึ้งตรึ่งใจ ก็มีแต่ซ่อนใว้ในใจ ไม่อาจแสดงความรักทั้งมวลต่อนางจนหมดสิ้นเป็นอันขาด จากเรื่อง ฤทธิ์มีดสั้น
----------------------------------------------
ไม่ว่าความรักของนางหวานชื่นหรือขมขื่น อย่างน้อยก็มีความสุขมากกว่าบุคคลที่มิเคยมีความรักมาก่อน
จากเรื่อง วีรบุรุษเจ้าสำราญ
----------------------------------------------
คิดอาศัยสุราราดรดทุกข์ ทุกข์กลับทับถมทวีคูณ รักยิ่งล้ำลึก ทุกข์ยิ่งเพิ่มทวี
จากเรื่องหลั่งเลือดสะท้านภพ
----------------------------------------------------
ความรักระหว่างคนกับคน ไฉนมีข้อแตกต่างถึงเพียงนี้ ข้อแตกต่างนี้ถึงมิอาจนับเป็นข้อแตกต่างประการหนึ่ง หากแต่เป็นรากเหง้าแห่งความปวดร้าวที่รุนแรงที่สุดของมนุษยชาติ โลกนี้ยังมีความเคี่ยวกรำอันใด ที่สร้างความปวดร้าวแก่ผู้คนยิ่งกว่าการเคี่ยวกรำของความรัก การเคี่ยวกรำทางร่างกาย เป็นผู้อื่นเคี่ยวกรำท่าน การเคี่ยวกรำของความรัก เป็นท่านเองเคี่ยวกรำตัวเอง ทรมานตัวเอง ถึงกับถือตัวเองเป็นศัตรูที่ตัวเองเคียดแค้นที่สุด ท่านแค้นตัวเอง ไฉนกระทำเรื่องเช่นนั้น ไฉนรักคนที่ไม่คู่ควรให้ท่านรัก
จากเรื่อง กระดึง สายลม คมดาบ
-------------------------------------------------------
"มันรักชุยล้ง มิได้รักผิด เนื่องเพราะมันรักนางด้วยใจจริงอันบริสุทธิ์" หยุดแย้มยิ้มแล้วกล่าวต่อ
"เรื่องนี้บันดาลให้เราเข้าใจ ความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีวันผิดพลาดไปตลอดกาลนาน" รักไม่มีผิดไปตลอดกาลนาน ดังนั้น ขอเพียงท่านต้องการรักผู้ใดโดยจริงใจ ท่านจงพยายามไปรัก อย่าไปสำนึกเสียใจ หรือถดถอยลงไป เพราะเรื่องราวอันใดเป็นอันขาด ขอเพียงความรักของท่านบริสุทธิ์จริงใจ ท่านก็มิได้รักผิดคนเป็นอันขาด จากเรื่อง ดาบจอมภพ
ถึงแม้บาดแผลบนร่างกายของคนเรา อาจมีได้นับร้อยนับพันแห่ง...แต่รอยแผลในหัวใจ กลับมีอยู่เพียงรอยเดียว และที่ตรงนั้นเอง...
ที่เขารู้สึกว่าเปราะบางที่สุด ถูกทำร้ายได้ง่ายที่สุด แม้ ว่าปากแผลจะปิดไปแล้วก็ตามแต่เมื่อไรที่มีอะไรมาสะกิดทำให้เราหวนคิดกลับ ไป...อาการก็จะกำเริบเจ็บปวดขึ้นมาอีกและนี่ก็คือเหตุผลที่ทำให้เขากลัว เสียงดนตรีอย่างที่สุด
-------------------------------------------------------

"...ในชั่วชีวิตของคนเรา ความจริงมีเรื่องราวที่ มิว่าผู้ใดก็ต้องอับจนปัญญา นับเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชั่วชีวิต...เป็นความเจ็บปวดสุดซึ้งที่สุดของชั่วชีวิต พบพานกับเรื่องเช่นนี้...ท่านไม่มีปัญญากระ***กระสนดิ้นรน ไม่มีปัญญาต่อสู้ขัดขืนไม่มีปัญญาปฏิเสธตัดรอนเลย แม้นับว่าท่านยินยอมให้ร่างกายเป็นผุยผงตกอเวจีไปชั่วกัปกัลปยังคงไม่อาจเหนี่ยวรั้งที่ท่านสูญเสียให้กลับมาได้ อาจบางทีท่าน...ความจริงมิเคยได้มันมาเลยตลอดกาลนาน..."
-------------------------------------------------------

"...เรื่องที่สวยงามมักเป็นเช่นฟองสบู่อยู่เสมอมา ปรากฏวูบก็หายวับ หากคิดจะฝืนกำลังไปเหนี่ยวรั้งมันไว้ที่แลกได้มา มักเป็นความเจ็บช้ำและเคราะห์กรรมเสมอ..."
-------------------------------------------------------

"...ความรักนับเป็นเรื่องพิศดารที่สุดจริงๆ มันบางครั้งสามารถบันดาลให้คนโง่เขลากลายเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องที่สุด แต่บางครั้งกลับสามารถบันดาลให้คนชาญฉลาดกลายเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญาได้..."
-------------------------------------------------------

"...มีเรื่องบางประการ มาตรว่าท่านปฏิเสธไม่ไปขบคิด แต่พาลต้องครุ่นคิดอยู่ทุกเวลา มนุษย์ไม่มีทางข่มกลั้นความรู้สึกนึกคิดของตัวเองไว้ได้ตลอดกาลนาน ...นี่เองบางทีเป็นการเจ็บปวดประการหนึ่งในหลายๆประการของชีวิตคนเรา..."
-------------------------------------------------------

"...ชั่วชีวิตมนุษย์...สิ่งที่บันดาลให้หดหู่ รันทด มิใช่การจำพราก...หากเป็นการอยู่ร่วม เพราะหากไม่เคยอยู่ร่วม ไหนเลยมีการจำพรากได้..."
-------------------------------------------------------

"...สวยงามเป็นเพียงความรู้สึกชั่ววูบเท่านั้น มีแต่ความจริง จึงเป็นนิรันดร์ ...แต่ก็มีคนว่าเราเพียงสามารถกุมช่วงเวลาที่สวยงามเพียงชั่ววูบไว้ได้ก็พอแก่ใจแล้ว ความจริงที่เป็นนิจนิรันดร์ทิ้งให้เป็นนิจนิรันดร์ต่อไป เราไม่แยแสสนใจเลย..."
-------------------------------------------------------

"...ความรักแท้จริงแล้วเป็นอารมณ์ความรู้สึกระดับพื้นฐานชนิดหนึ่งของมนุษยชาติ ทั้งเป็นชนิดที่เก่าแก่ที่สุดด้วย..หากปราศจากความรัก ก็จะไม่มีมนุษยชาติ..."
-------------------------------------------------------

"...ความรักเป็นสิ่งงดงาม งดงามประหนึ่งดอกกุหลาบ แต่ทว่ามันมีหนาม...กุหลาบที่ไร้หนามในโลกนี้มีเพียงสิ่งเดียวคือมิตรภาพ..."
-------------------------------------------------------

"...เมื่อคิดเสพสุขอันหวานชื่นของความรัก ก็ต้องเตรียมใจสำหรับกล้ำกลืนความกลัดกลุ้มและปวดร้าวจากความรักด้วย..."
-------------------------------------------------------

"...คนเรามีแต่ตอนคิดใคร่จะได้ที่สุด จึงหวาดกลัวจะสูญเสียเป็นที่สุด ความรู้สึกที่บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายเยี่ยงนี้ ก็เป็นจุดอ่อนหนึ่งในจำนวนมากหลายของมนุษย์เรา ที่น่าเศร้าคือท่านยิ่งรุ่มร้อนปรารถนาจะได้ความหวังจะสูญเสียก็ยิ่งมากมาย..."
-------------------------------------------------------

"...ในโลกความจริง มีเรื่องอับจนปัญญาอยู่มากหลาย มิว่าผู้ใดต่างมิอาจเหนี่ยวรั้งขัดขืนได้...เยี่ยงนี้แม้เจ็บปวดรันทด แต่หากยังมีชีวิตอยู่ก็ต้องคิดหาวิธีมาสลัดความความเจ็บปวดรันทดของตัวเองออกไปให้ได้..."
-------------------------------------------------------

"...โชคและเคราะห์ ความจริงพิสดารยิ่ง หากท่านพบพานเรื่องเคราะห์ร้าย อย่าได้ตัดพ้อ ตำหนิ อย่าได้ท้อแท้ แม้นับว่าท่านถูกเคราะห์จู่โจมจนล้มลงก็หาเป็นไร
ไม่ ขอเพียงยังมีชีวิต ท่านก็ต้องยังมีเวลาทรงกายขึ้นยืนได้..."

สุราอยู่ในจอก โคมไฟริบหรี่แสงเลือนลาง มีสุราเหลืองขุ่น นี่มิใช่สุราดี แต่สุราดีหรือ-หาได้อยู่ที่ตัวมันไม่
......กลับอยู่ที่ท่านดื่มมันเวลาใด ? หากเป็นคนที่คับแค้นรันทดจนสุดซึ้ง มาตรว่าเป็นเมรัยรสเลิศในดินแดน ยามล่วงล้ำลำคอก็ขมฝาดจนบอกไม่ถูก